KOBE B-17 AWS A5.1 E6019

ลวดเชื่อม B-17 เป็นลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ชนิดอิลเมไนท์ (หรือผลเหล็กออกไซด์ผสมไตตาเนีย) ซึ่งถูกออกแบบเป็นพิเศษ ให้รอยเชื่อมที่ต้านทานการแตกร้าวได้ดี, ไม่เกิดฟองอากาศ และสามารถผ่านการตรวจสอบเอ็กซ์เรย์ได้ดีที่สุดในกลุ่มอิลเมไนท์ 

 B-17 เป็นลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ชนิดอิลเมไนท์ เหมาะสำหรับการเชื่อมโครงสร้างเหล็กหนาในงานสร้างเรือ, อาคาร และเครื่องจักรกล ที่ทำด้วยเหล็กเหนียว ให้รอยเชื่อมที่ต้านทานการแตกร้าวได้ดี,

คุณสมบัติ

• ชนิดของฟลักซ์: เป็นลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ชนิดอิลเมไนท์ (หรือผงเหล็กออกไซด์ผสมไททาเนีย)
• มาตรฐานสากล: จัดอยู่ในมาตรฐาน AWS A5.1 E6019 และ JIS Z3211 E4319
• ทนทานต่อการแตกร้าว: ให้รอยเชื่อมที่มีความต้านทานการแตกร้าวได้ดี
• ป้องกันฟองอากาศ: ไม่เกิดฟองอากาศ (porosity) และสามารถผ่านการตรวจสอบเอ็กซ์เรย์ได้ดีที่สุดในกลุ่มลวดเชื่อมชนิดอิลเมไนท์
• ให้เกล็ดรอยเชื่อมที่เรียบและสวยงาม
• สามารถเชื่อมได้ทุกท่าเชื่อม (All position welding)
• เหมาะสำหรับทั้งกระแสไฟฟ้าสลับ (AC) และกระแสไฟฟ้าตรง (DC-EP หรือ DC-EN)
• สามารถใช้เชื่อมเหล็กโครงสร้างที่มีความหนาได้ถึงประมาณ 25 มม.
• เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเชื่อมโครงสร้างเหล็กหนา เช่น งานสร้างเรือ, อาคาร, และเครื่องจักรกลที่ทำด้วยเหล็กเหนียว

ขนาดที่มีจำหน่ายและช่วงกระแสไฟเชื่อมที่แนะนำ (AC, DC-EP หรือ DC-EN)

ขนาดลวด (มม.)                  ความยาว (มม)                     กระแสไฟเชื่อม (แอมป์) F, HF, H, VD, VU, OH

2.6                                     350                                     50~55          40~70

3.2                                     400                                     80~130       60~110

4.0                                     400                                     120~180     100~150   

5.0                                     450                                     170~250     130~200

ข้อแนะนำในการใช้งาน

1. การอบลวดเชื่อม: ควรอบลวดเชื่อมที่อุณหภูมิ 70-100°C เป็นเวลา 30-60 นาทีก่อนใช้งาน เพื่อป้องกันความชื้น ซึ่งอาจทำให้เกิดฟองอากาศได้
2. กระแสไฟเชื่อม: ควรใช้กระแสไฟเชื่อมในช่วงที่เหมาะสมตามขนาดของลวดเชื่อมที่แนะนำจากผู้ผลิต (ดูรายละเอียดขนาดและกระแสไฟที่แนะนำได้จาก คู่มือวัสดุงานเชื่อมของ Thai Kobelco หรือตัวแทนจำหน่าย)
3. เทคนิคการเชื่อม: ควรรักษาระยะอาร์คให้สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อป้องกันเปลวอาร์คดับและลดการเกิดฟองอากาศ